วันพฤหัสบดีที่ 4 ตุลาคม พ.ศ. 2555

ทฤษฎีการเรียนรู้อย่างมีความหมายของ ออซูเบล (Ausubel , David 1963)


ออซูเบล (Ausubel , David 1963)

ออซูเบล  (Ausubel , David 1963)  เป็นนักจิตวิทยาแนวปัญญานิยม  ทฤษฎีของออซูเบลเป็นทฤษฎีที่หาหลักการอธิบายการเรียนรู้ที่เรียกว่า  "Meaningful Verbal Learning"  โดยเฉพาะ  การเชื่อมโยงความรู้ที่ปรากฎในหนังสือที่โรงเรียนใช้กับความรู้เดิมที่อยู่ในสมองของผู้เรียน  ในโครงสร้างสติปัญญา  (Cognitive Structure)  หรือ การสอนโดยวิธีการให้ข้อมูลข่าวสาร  ด้วยถ้อยคำทฤษฎีของออซูเบล  เน้นความสำคัญของการเรียนรู้อย่างมีความเข้าใจทฤษฎีของออซูเบลบางครั้ง เรียกว่า  "Subsumption Theory"  
ทฤษฎีกลุ่มพุทธิปัญญา (Cognitivism)
ตั้งแต่ปี  ค.ศ. 1960  นักทฤษฎีการเรียนรู้เริ่มตระหนักว่า  การที่จะเข้าถึงการเรียนรู้ได้อย่างสมบูรณ์นั้น  จะต้องผ่านการพิจารณา  ไตร่ตรอง  การคิด  (Thinking)  เช่นเดียวกับพฤติกรรม  และควรเริ่มสร้างแนวคิดเกี่ยวกับการเรียนรู้ในทรรศนะของ  การเปลี่ยนแปลงกระบวนการคิด (Mental change)  มากกว่าการเปลี่ยนแปลงทางพฤติกรรม  ดังนั้นจึงมี  การเปลี่ยนกระบวนทัศน์จากความสนใจเกี่ยวกับสิ่งเร้ากับการตอบสนอง
กลุ่มพุทธิปัญญา  ให้ความสนใจเกี่ยวกับกระบวนการคิด  การให้เหตุผลของผู้เรียน  ซึ่งแตกต่างจากทฤษฎีการเรียนรู้ของกลุ่มพฤติกรรมนิยม  (Behaviorism)  ที่มุ่งเน้นพฤติกรรมที่สังเกตได้เท่านั้นโดยมิได้สน ใจกับกระบวนการคิดหรือกิจกรรมทางสติปัญญาของมนุษย์
การเรียนรู้อย่างมีความหมาย
คือ ผู้เรียนได้เชื่อมโยง  (Subsumme)  สิ่งที่จะต้องเรียนรู้ใหม่  กับความรู้เดิมที่มีมาก่อนที่มีในโครงสร้างในสติปัญญาของผู้เรียนมาแล้ว

ออซูเบลให้ความหมายการเรียนรู้อย่างมีความหมาย ( Mearningful learning)  ว่าเป็นการเรียนที่ผู้เรียนได้รับมาจากการที่ผู้สอนอธิบายสิ่งที่จะต้องเรียนรู้ให้ทราบและผู้เรียนรับฟังด้วยความเข้าใจโดยผู้ เรียนเห็นความสัมพันธ์ของสิ่งที่เรียนรู้กับโครงสร้างพุทธิปัญญาที่ได้เก็บไว้ในความทรงจำ และจะสามารถนำมาใช้ในอนาคต  ออซูเบลได้ชี้ให้เห็นว่าทฤษฎีนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อที่จะอธิบายเกี่ยวกับพุทธิปัญญา   
ประเภทของการเรียนรู้โดยการรับอย่างมีความหมาย 
1.  Subordinate learning   
 1.1 Deriveration Subsumption  ป็นการเชื่อมโยงสิ่งที่จะต้องเรียนรู้ใหม่กับหลักการหรือกฎเกณฑ์ที่เคยเรียนมาแล้ว  โดยการได้รับข้อมูลมาเพิ่ม  เช่น  มีคนบอก      
1.2 Correlative subsumption  เป็นการเรียนรู้ที่มีความหมายเกิดจากการขยายความ หรือปรับโครงสร้างทางสติปัญญาที่มีมาก่อนให้สัมพันธ์กับสิ่งที่จะเรียนรู้ใหม่
2. Superordinate learning   ป็นการเรียนรู้โดยการอนุมาน โดยการจัดกลุ่มสิ่งที่เรียนใหม่เข้ากับความคิดรวบยอดที่กว้างและครอบคลุมความคิดยอดของสิ่งที่เรียนใหม่
3. Combinatorial learning  เป็นการเรียนรู้หลักการ  กฎเกณฑ์ต่างๆเชิงผสม  ในวิชาคณิตศาสตร์ หรือวิทยาศาสตร์ โ ดยการใช้เหตุผล  หรือการสังเกต
เทคนิคการสอน
ออซูเบลได้เสนอแนะเกี่ยวกับ  Advance organizer   เป็นเทคนิคที่ช่วยให้ผู้เรียนได้เรียนรู้อย่างมีความหมายจากการสอนหรือบรรยายของครู  โดยการสร้างความเชื่อมโยงระหว่างความรู้ที่มีมาก่อนกับข้อมูลใหม่ หรือความคิดรวบยอดใหม่ ที่จะต้องเรียน  จะช่วยให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้อย่างมีความหมายที่ไม่ต้องท่องจำ หลักการทั่วไปที่นำมาใช้ คือ      
 -  การจัด เรียบเรียง ข้อมูลข่าวสารที่ต้องการให้เรียนรู้  ออกเป็นหมวดหมู่
-   นำเสนอกรอบ หลักการกว้างๆ ก่อนที่จะให้เรียนรู้ในเรื่องใหม่
แบ่งบทเรียนเป็นหัวข้อที่สำคัญ  และบอกให้ทราบเกี่ยวกับหัวข้อสำคัญ
สรุปได้ว่า  การเรียนรู้อย่างมีความหมาย  (Mearningful learning)
ออซูเบล  เป็นทฤษฎีกลุ่มพุทธิปัญญา  เน้นความสำคัญของผู้เรียน  ออซูเบลจะสนับสนุนทั้ง Discovery และ Expository technique  ซึ่งเป็นการสอนที่ครูให้หลักเกณฑ์  และผลลัพธ์  ออซูเบลมีความเห็นว่าสำหรับเด็กโต  (อายุเกิน11หรือ 12 ปี)นั้น  การจัดการเรียนการสอนแบบ  Expository technique  น่าจะเหมาะสมกว่าเพราะเด็กวัยนี้สามารถเข้าใจเรื่องราว  คำอธิบายต่างๆได้

2 ความคิดเห็น:

Tanamon Somchana กล่าวว่า...

ยังมีส่วนที่พิมพ์ผิดหลายแห่งขอให้ตรวจทาน

ศีลเด่น เป็นงาน ชาญวิชา กล่าวว่า...

thanks

แสดงความคิดเห็น